16/05/2009

พระสันตะปาปาเสด็จถึงกรุงโรมโดยสวัสดิภาพแล้ว



เมื่อเวลา 16.50 น.ของวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา (ตรงกับ 21.50 น. ตามเวลาประเทศไทย) สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ได้เสด็จถึงสนามบินคัมปิโน่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี และประทับรถยนต์พระที่นั่งกลับสู่นครรัฐวาติกันโดยสวัสดิภาพ ถือเป็นการเสร็จสิ้นการแสวงบุญแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Holy Father arrives at Ciampino Airport in Rome






ภาพ : GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour



โป๊ปอำลาแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ด้วยการขอสันติภาพระหว่างยิวกับปาเลสไตน์



สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเสร็จสิ้นการแสวงบุญแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตรัสสุนทรพจน์อำลา ด้วยการขอสันติภาพและทางออกให้กับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์




เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ได้เสร็จสิ้นการแสวงบุญแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์และประทับเครื่องบินพระที่นั่งออกจากสนามบินเบน กูร์ยอน เมืองเทล-ฮาวีฟ เพื่อเสด็จกลับกรุงโรมแล้ว โดยช่วงก่อนหน้านี้ ได้มีพิธีส่งเสด็จพระสันตะปาปา ซึ่งพระองค์ทรงกล่าวสุนทรพจน์ส่งท้ายด้วยการวอนขอสันติภาพอย่างจริงจัง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะต้องมีทางแก้ไขปัญหาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์อย่างแน่นอน

พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ขอให้สันติภาพอันยั่งยืนซึ่งตั้งอยู่บนความยุติธรรม รวมไปถึงการให้อภัยและการคืนดี บังเกิดกับแผ่นดินนี้ ขอให้แสงสว่างได้นำความหวังในการแก้ปัญหาไปมอบให้กับทุกชาติที่กำลังขัดแย้งกัน และขอให้ปัญหาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ได้พบกับทางออก ขอให้มันไม่เป็นความฝันลมๆแล้งๆอีกต่อไป"

จากนั้น พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ทรงย้ำว่า พระองค์ทรงเศร้าพระทัยที่ต้องเห็นสองชาตินี้รบราฆ่าฟันกัน "อิสราเอลและปาเลสไตน์คือเพื่อนของข้าพเจ้า ดังนั้น ไม่มีใครไม่เสียใจที่ต้องเห็นเพื่อนรักทั้งสองทะเลาะกัน ไม่มีใครที่จะไม่ร้องไห้ เมื่อได้เห็นเพื่อนทนทุกข์และสูญเสียประชากรสุดที่รัก อันเป็นผลจากความขัดแย้งเกือบ 6 ทศวรรษที่ผ่านมา"

พระสันตะปาปายังทรงแบ่งปันความรู้สึกระหว่างประทับในอิสราเอล โดยย้ำว่า เรื่องเศร้าสุดอยู่ที่การเสด็จเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยในเบ็ธเลเฮม "สิ่งที่ข้าพเจ้าเศร้าใจที่สุด ก็คือ การเห็นกำแพงค่ายผู้อพยพในเขตเวสต์แบงก์ เมืองเบ็ธเลเฮม ตีเส้นกั้นแบ่งแยกเชื้อชาติอย่างชัดเจน ดังนั้น ข้าพเจ้าได้แต่เฝ้าภาวนาว่า ในอนาคต ชาวยิวและชาวปาเลสไตน์จะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติและสามัคคี ผ่านทางความเคารพและวางใจกัน"

"สันติภาพไม่ใช่เป้าหมายที่จะได้มาง่ายๆ แต่ข้าพเจ้าขอมอบคำภาวนา ทั้งของข้าพเจ้าและของชาวคาทอลิกทั่วโลก เพื่อทุกความพยายามในการสร้างความยุติธรรมและสันติภาพที่ยั่งยืน จะได้เกิดกับแผ่นดินนี้ตลอดไป" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย

หลังจากนี้ พระสันตะปาปาจะประทับเครื่องบินพระที่นั่งออกจากอิสราเอล เพื่อเสด็จกลับอิตาลี ต่อไป










Papal Farewell at Ben Gurion Airport



















































ภาพ : GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour



พระสันตะปาปาเสด็จเยี่ยมพระอัยกาพระศาสนจักรอาร์เมเนี่ยน



เมื่อช่วงเที่ยงวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ได้เสด็จไปยังวัดเซนต์เจมส์ (นักบุญยากอบ) เพื่อพบปะและสนทนาสั้นๆกับพระอัยกา ตูร์กุม มานูกิอัน ผู้นำพระศาสนจักรออโธด็อกซ์อาร์เมเนี่ยนประจำอิสราเอล ทั้งนี้ วาติกันแถลงรายละเอียดของการสนทนาว่า พระสันตะปาปาทรงขอให้ชาวออโธด็อกซ์อาร์เมเนี่ยน ร่วมมือกับพระองค์ในการสวดภาวนาเพื่อสันติภาพสำหรับคริสตชนในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับ ประกาศพระวรสารซึ่งนำการคืนดี, สันติ, ความยุติธรรม และการให้อภัยไปมอบให้กับสังคม

หลังจากนี้ พระสันตะปาปาจะประทับเฮลิคอปเตอร์มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติ เบน กูร์ยอน เมืองเทล-ฮาวีฟ เพื่อไปขึ้นเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จกลับกรุงโรม ต่อไป



Pope visits Armenian Apostolic Patriarchate








ภาพ : GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour



โป๊ปภาวนาที่คูหาฝังพระศพพระเยซูพร้อมชวนฝังความทุกข์ไว้ในนี้



สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงเชิญชวนผู้อาศัยในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ฝังความทุกข์ทรมานจากพายุสงครามไว้ในคูหาฝังพระศพอันว่างเปล่า เพื่อไปรับสันติสุขในพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ





เมื่อช่วงสายวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ได้เสด็จไปยังวัดพระคูหาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อสวดภาวนาหน้าที่ฝังพระศพพระเยซู นอกจากนี้ การเสด็จกลับคืนชีพก็เกิดขึ้นที่นี่เช่นกัน โดยก่อนจะภาวนาหน้าพระคูหา พระสันตะปาปาทรงจุมพิตแผ่นหินซึ่งเชื่อกันว่า โยเซฟ ชาวอาริมาเธีย และ นิโคเดมัส ได้วางพระศพพระเยซูลงบนนี้ เพื่อชโลมเครื่องหอมตามประเพณีการฝังศพของชาวยิว (จอห์น 19:38-40)


หลังจากภาวนาแล้ว พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนสัตบุรุษผู้ร่วมพิธี โดยเริ่มด้วยการขอบใจทุกฝ่ายที่ต้อนรับพระองค์อย่างดี "พ่อขอขอบใจพระอัยกาแห่งกรุงเยรูซาเล็มและผู้นำคริสตชนนิกายต่างๆ สำหรับการต้อนรับพ่อในฐานะผู้สานงานต่อจากนักบุญเปโตร ซึ่งมาเยือนสถานที่ที่ท่านนักบุญ(เปโตร)และนักบุญจอห์น ได้พบว่า พระเยซูทรงกลับคืนชีพแล้ว"

ข้อความเชื่อสำคัญที่สุดในคริสตศาสนาคือการเชื่อว่าพระเยซูเสด็จกลับคืนชีพจากความตาย พระสันตะปาปาจึงไม่ลืมประกาศความเชื่อนี้ตรงจุดที่พระเยซูกลับเป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์ตรัสว่า "ณ ที่แห่งนี้ พ่อขอประกาศย้ำอีกครั้ง พระศาสนจักรยืนยันความเชื่ออย่างมั่นคงว่า พระเยซูคริสตเจ้าทรงสิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้ พระองค์เสด็จกลับคืนชีพในวันที่สามตามความในพระคัมภีร์และเสด็จไปประทับเบื้องขวาพระบิดา นอกเหนือจากพระองค์แล้ว ไม่มีผู้ใดที่พระบิดาทรงส่งมาเพื่อไถ่มนุษยชาติให้ได้รับความรอดอย่างแน่นอน"

จากนั้น ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ทรงเชิญชวนฝูงแกะในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ นำความทุกข์ใส่ไว้ในคูหาฝังพระศพ พร้อมเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตเสียใหม่ นอกจากนี้ ทรงขอให้ทุกคนวางใจและน้อมรับน้ำพระทัยของพระเจ้า เหมือนที่พระเยซูทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง

"บ่อยครั้งที่ประชากรในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ต้องประสบความทุกข์ระทมแห่งกลโกธา พ่อจึงหวังว่า คูหาฝังพระศพอันว่างเปล่านี้จะมอบความหวังให้กับพวกท่าน นี่คือความหวังที่ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะมันเป็นของขวัญจากพระจิตเจ้า คูหานี้ได้เรียกเราให้ฝังความกลัวและทุกข์ลงไป เพื่อที่ว่า เราจะลุกขึ้นมาดำเนินชีวิตประจำวันตามท้องถนนของเยรูซาเล็ม, กาลิลี, นาซาเร็ธ และที่อื่นๆ ด้วยการประกาศชัยชนะของพระคริสตเจ้าในเรื่องการให้อภัยและชีวิตใหม่ในพระองค์"

"พระเยซูคริสต์คือองค์แห่งสันติของชาวเรา พระองค์ทำให้เรากลับคืนดีกับพระบิดาโดยทางการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ทำให้ความเป็นศัตรูต้องพินาศไป ในอ้อมพระหัตถ์ของพระเยซู ขอให้เรามอบความวางใจและมอบความหวังไว้กับพระองค์ เหมือนที่พระองค์ทรงมอบความวางใจในพระบิดา ยามที่ทรงเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากในสวนเก็ธเซเมนี" พระสันตะปาปา ตรัสในตอนท้าย

หลังจากนี้ พระสันตะปาปาจะเสด็จไปเยี่ยมผู้นำพระศาสนจักรอาร์เมเนี่ยน ที่วัดเซนต์เจมส์ในกรุงเยรูซาเล็ม ต่อไป






Pope visits the Holy Sepulchre in Jerusalem





























































ภาพ : GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour