สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงชี้ชัด สันติภาพจะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าหัวใจของคนยังเกลียดชังและไม่รู้จักการให้อภัย นอกจากนี้ ทรงขอร้องพ่อแม่ทุกคน จริงจังกับการศึกษาของลูก เพื่อที่ภายภาคหน้า พวกเขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำพาประเทศพบกับความก้าวหน้า
เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ได้เสด็จไปยังศูนย์ผู้ลี้ภัยในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นที่พักพิงของชาวคริสต์และชาวมุสลิมที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม โดยก่อนหน้าที่พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ จะเสด็จมาที่นี่ พระองค์ได้เสด็จไปภาวนาหน้าสถานที่ซึ่งพระเยซูประสูติ ก่อนจะตามด้วยการเยี่ยมโรงพยาบาลเด็กของการิตัส (มีรายงานเข้ามาว่า พระสันตะปาปาทรงบริจาคเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลด้วย ส่วนค่ายผู้ลี้ภัย พระสันตะปาปาทรงมอบเช็คเงินสดจำนวน 95,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสร้างอาคารเรียน)
ในส่วนพระดำรัสที่พระสันตะปาปากล่าว ณ ศูนย์แห่งนี้ พระองค์ทรงเริ่มด้วยการขอบใจอาสาสมัครซึ่งทำงานรับใช้ผู้ลี้ภัยว่า "พ่อขอขอบใจบรรดาครูอาจารย์และพยาบาลที่อุทิศตนทำงานรับใช้พี่น้องเหล่านี้ สิ่งที่ท่านทำคือการแสดงออกถึงความหวังสำหรับอนาคตอย่างแท้จริง"
จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวกับครอบครัวต่างๆที่ลี้ภัยในศูนย์แห่งนี้ โดยทรงเน้นย้ำความสำคัญของการให้การศึกษาแก่บุตรหลานของตนว่า "พ่อแม่ต้องสนับสนุนลูกๆของตนให้ได้รับการศึกษา เพื่อที่ว่า เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น จะได้เป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมในการนำพาปาเลสไตน์พบกับความเจริญก้าวหน้า"
พระสันตะปาปายังได้ร่วมเป็นทุกข์ไปกับทุกครอบครัวซึ่งต้องพบกับความสูญเสียจากสงคราม พร้อมกันนี้ ทรงชี้ชัดเลยว่า สันติภาพที่ถวิลหากันมานาน จะไม่เกิดอย่างเด็ดขาด ตราบใดที่ความอาฆาตแค้นยังคุกรุ่นอยู่ในหัวใจ "พ่อทราบดีว่า หลายครอบครัวต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ สมาชิกในครอบครัวถูกจับกุมตัว บางคนถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ บางคนถูกจับไปเป็นเชลยบ้าง ตัวประกันบ้าง กระนั้น ขอให้เกิดความมั่นใจว่า ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ทั่วโลก เฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องสูญเสียคนรักจากเหตุความขัดแย้งในฉนวนกาซ่า พวกท่านจะอยู่ในคำภาวนาของพ่ออย่างแน่นอน"
"มีคนจำนวนมากเท่าไหร่ในค่ายผู้ลี้ภัย ในอาณาเขตปาเลสไตน์ และในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังรอคอยสันติภาพ การรอคอยนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน กล่าวคือ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1948 (ปีที่อิสราเอลรวมชาติ) ความขัดแย้งต่างๆก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขเสียที สิ่งนี้ทำให้ท่านต้องดำเนินชีวิตในภาวะอันตราย ทั้งยังทำให้อัตราการจ้างงานมีจำกัด ฉะนั้น มันจึงเข้าใจได้ง่ายมากถึงความผิดหวังและท้อแท้ที่พวกท่านกำลังประสบ"
"พ่อขอให้พวกท่านมีความกล้าหาญ ยามที่สังคมมีแต่ความหวาดกลัวและไม่เข้าใจกัน เราต้องเข้มแข็งเข้าไว้ หลังการสู้รับกันยาวนานหลายปี บัดนี้ ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องให้อภัยและคืนดีกัน ประวัติศาสตร์ก็ระบุอย่างชัดเจนว่า สันติภาพจะเกิดก็ต่อเมื่อฝ่ายที่ขัดแย้งยอมละทิ้งความโกรธเคืองและหันหน้าเข้าหากัน เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศแห่งความวางใจให้เข้ามาแทนที่ความหวาดกลัว" ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ตรัสอย่างจริงจัง
"สุดท้ายนี้ พ่อขอให้กำลังใจทุกคน ด้วยบทภาวนาของนักบุญฟรานซิส อัสซีซี ที่ว่า ที่ใดมีความเกลียดชัง ขอให้ข้าฯเป็นผู้นำความรัก ที่ใดมีความเจ็บแค้น ขอให้ข้าฯเป็นผู้นำการอภัย ... ที่ใดมีความมืด ขอให้ข้าฯเป็นผู้นำความสว่าง ที่ใดมีความเศร้าโศก ขอให้ข้าฯเป็นผู้นำความยินดีเบิกบานใจ"
"พ่อก็ขอให้แบบอย่างของท่านนักบุญฟรานซิส ผู้นำสันติที่ยิ่งใหญ่ ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคน พ่อขอย้ำว่า สถานที่แรกที่สันติภาพจะเกิดก็คือหัวใจของเรา จากนั้น จึงเป็นครอบครัว สังคม ประเทศชาติ แล้วจึงเกิดกับโลก ... ขอให้สันติภาพเต็มเปี่ยมในหัวใจของท่านและแผ่นดินนี้ตลอดไป" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย
Pope visits Church of the Nativity and Aida Refugee Camp
4 ภาพแรก พระสันตะปาปาเสด็จภาวนาหน้าสถานที่ซึ่งพระเยซูประสูติ
ภาพ : GETTY IMAGES, Reuters, Daylife, Catholic World Tour
No comments:
Post a Comment